วิธีตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มออนไลน์ฉบับง่าย ๆ

- ก่อนกรอกข้อมูลส่วนตัวลงเว็บไซต์ ควรตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มนั้นน่าเชื่อถือหรือไม่
- ประเมินความน่าเชื่อจาก ข้อมูลผู้ให้บริการ ยืนยันความปลอดภัยจากส่วนต้นและท้ายของที่อยู่เว็บไซต์ ดูนโยบายและเงื่อนไขในการใช้งาน
- อาจเลือกดูจากเว็บไซต์ที่ทำการรีวิวหรือวิเคราะห์และประเมินเว็บที่ต้องการใช้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
ในช่วงเริ่มแรกของยุคดิจิทัล ผู้ใช้งานส่วนใหญ่อาจจะเป็นคนหนุ่มสาวหรือผู้ใหญ่วัยทำงานที่ได้เรียนคอมพิวเตอร์และปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว แต่ในปัจจุบันนี้นั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็หนีการต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มออนไลน์บนอินเทอร์เนตกันไม่พ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายออนไลน์ การเรียนออนไลน์ หรือแม้แต่การใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับโครงการหรือการบริการของรัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่ง แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าแพลตฟอร์มที่กำลังใช้งานอยู่นั้นเชื่อถือได้ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับการเงิน
แม้แพลตฟอร์มออนไลน์จะอำนวยความสะดวกในหลายด้านเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องแลกกับความเสี่ยงที่มองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงื่อนไขในการใช้งานที่ไม่ชัดเจน ใช้สำนวนวกวน แอบตุกติก เรื่องความเสี่ยงในการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวอย่าง ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือที่น่ากลัวกว่าคือข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัตรเครดิต เลขบัญชีธนาคารหลุดและอาจถูกนำเอาไปใช้ในทางทุจริต หรือถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลมาหลอกจนเสียเงิน เสียทรัพย์สิน เราจึงจะมาอธิบายถึงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มออนไลน์แบบง่าย ๆ ไม่ว่าใครก็สามารถนำไปใช้ประเมินแพลตฟอร์มได้จริง
ตรวจสอบข้อมูลผู้ให้บริการ
ก่อนจะเดินเข้าร้านอาหารหรือร้านขายของ แน่นอนว่าเราก็ต้องเลือกร้านที่ดูน่าไว้ใจ หากดูอันตรายหรือรู้สึกเหมือนกำลังจะเดินเข้าดงโจรก็ควรเลี่ยง การใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์หรือเว็บไซต์ก็เหมือนกัน ควรสละเวลาเล็กน้อยเพื่อตรวจสอบว่า เว็บไซต์แสดงข้อมูลผู้ให้บริการอย่างชัดเจนหรือเปล่า เช่น ชื่อบริษัท หรือชื่อผู้ประกอบการ ที่อยู่สำนักงาน เบอร์โทรศัพท์เพื่อการติดต่อ มีเลขทะเบียนหรือไม่ เช่น ถ้าเป็นแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ก็ควรจะมี เลขทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered) หรือถ้าเป็นเว็บคาสิโนออนไลน์ ก็ควรจะมีใบอนุญาตคาสิโนและเลขทะเบียน
คงไม่มีใครกล้ายื่นกระเป๋าสตางค์หรือบัตรประชาชนให้คนที่ไม่รู้จักหน้า ไม่รู้จักชื่อ การกรอกข้อมูลส่วนตัวลงเว็บไซต์ก็เช่นกัน ควรมั่นใจว่าเว็บไซต์นั้นไว้ใจได้ ก่อนจะให้ข้อมูลส่วนตัวหรือทำการจ่ายเงินผ่านเว็บไซต์
ตรวจสอบข้อมูลโดเมนเว็บไซต์
ฟังเผิน ๆ อาจจะดูยาก แต่จริง ๆ ก็คือแค่ดูจาก URL หรือที่อยู่ของเว็บไซต์ ว่าต่อจากชื่อเว็บแล้ว เว็บไซต์นั้นลงท้ายด้วยอะไร ถ้าเป็นเว็บของไทย ส่วนใหญ่จะลงท้ายด้วย .co.th ซึ่งแปลว่าเป็นธุรกิจของจริง หากเว็บไซต์นั้นลงท้ายด้วย .com , .org หรือ .net ก็ค่อนข้างไว้ใจได้เหมือนกัน ที่ควรระวังอย่างมากคือ เว็บปลอมที่นำชื่อเว็บดัง ๆ มาใช้ แต่ URL กลับลงท้ายแปลก ๆ เช่น .xyz
นอกจากท้ายชื่อเว็บแล้ว ที่อยู่ของเว็บไซต์หรือ URL ควรขึ้นต้นด้วย https:// และควรดูตรงช่องที่อยู่ของเว็บไซต์ว่ามีเครื่องหมายแม่กุญแจหรือไม่ การมีเครื่องหมายแม่กุญแจเป็นสัญลักษณ์ว่าเว็บไซต์นั้นมีใบรับรอง SSL certificate
SSL (Secure Sockets Layer) คือการเข้ารหัสข้อมูลระหว่างผู้ใช้และเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยป้องกันการแอบโจรกรรมข้อมูลจากบุคคลที่สาม ทำให้มั่นใจได้ว่าพวกรหัสผ่าน ที่อยู่ หรือข้อมูลส่วนตัวที่กรอกลงไปจะไม่โดนขโมย
ตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัว
ประเทศไทยได้ออกพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในปี พ.ศ. 2562 หรือที่เรียกกันว่า พรบ.ส่วนบุคคล (PDPA: Personal Data Protection Act) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ถูกสร้างมาเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคล ไม่ให้มีการละเมิดนำข้อมูลส่วนบุคคลของทุกคนไปเปิดเผย นำไปจัดเก็บหรือใช้งาน โดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าของข้อมูลรับทราบหรืออนุญาต
โดยทั่วไปตามเว็บไซต์จะมีหน้าแสดงนโยบายการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หรืออาจเขียนด้วยภาษาอังกฤษว่า Privacy Policy ซึ่งเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะวางลิงก์ของหน้านี้ไว้ที่ด้านล่างของหน้าเว็บเพจ
ในหน้านโยบายความเป็นส่วนตัว ควรมีการระบุให้ชัดเจนว่าแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์นี้มีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานประเภทใดบ้าง เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ คุกกี้หรือพฤติกรรมการใช้งาน และจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เพื่ออะไร มีมาตรการในการเก็บรักษา หรือปกป้องข้อมูลอย่างไร ผู้ใช้งานมีสิทธิเข้าถึงหรือขอให้ลบข้อมูลของตน ซึ่งตาม ตัวอย่างหน้านโยบายความเป็นส่วนตัว ก็มีข้อมูลเหล่านี้ครบถ้วน
ตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งาน
นอกจากหน้านโยบายการปกป้องข้อมูลส่วนตัวตามด้านบนแล้ว แพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ควรจะมีหน้าข้อกำหนดและเงื่อนไขในการใช้บริการหรือใช้งานเว็บไซต์ด้วย หากเป็นภาษาอังกฤษอาจเขียนว่า Terms of use, Terms of Service หรือ Terms and Conditions
เอกสารหรือหน้าเว็บเพจนี้เป็นข้อตกลงระหว่างผู้ให้บริการและผู้ใช้ เช่น ผู้ใช้สามารถยกเลิกบัญชีได้อย่างไรหรือหากมีการเสียหาย จะมีการรับผิดชอบอย่างไร หรือทำการร้องเรียนได้ที่ไหน ซึ่งหากไม่มีการชี้แจงในส่วนนี้ให้ชัดเจน หรือเขียนแบบคลุมเครือ เล่นคำ ควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้งานเว็บไซต์นั้น ๆ
ก่อนกดยอมรับหรือใช้บริการใด ๆ ควรตรวจสอบเงื่อนไขการใช้งานให้ละเอียด เพราะถือเป็นการทำความเข้าใจและปกป้องสิทธิของตนเอง ตัวอย่างเช่น ต้องการรับโบนัสคาสิโน เว็บพนันที่ดีควรจะมีรายละเอียดเงื่อนไขในการเดิมพัน หรือการทำเทิร์นโอเวอร์ให้ชัดเจน ว่าต้องเทิร์นกี่เท่าถึงจะถอนเงินได้ ซึ่งหากไม่ทำความเข้าใจเงื่อนไขตรงนี้ให้ดี มองแค่จำนวนโบนัส แต่ไม่สามารถทำตามเงื่อนไขได้ ก็อาจถอนเงินไม่ได้
ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มยังมีการอัปเดตอยู่
การจะดูว่าธุรกิจนั้นยังมีการบริหารดำเนินงานอยู่จริงหรือไม่นั้น สามารถดูได้ว่าแพลตฟอร์มยังมีการอัปเดตข้อมูลหรือข่าวสารอย่างสม่ำเสมอหรือเปล่า เช่น ออกแคมเปญหรือโปรโมชันล่าสุดมาเมื่อไหร่ มีช่องทางให้ติดต่อชัดเจนไหม หากติดต่อไปแล้วมีการตอบกลับอย่างรวดเร็วหรือไม่
ในทางกลับกัน หากเนื้อหาของเว็บไซต์ไม่มีการอัปเดตมานาน หรือเนื้อหาล้าสมัยเหมือนถูกทิ้งร้าง พยายามติดต่อไปแต่ก็ไม่มีใครตอบกลับ ก็ควรตั้งคำถามว่าแพลตฟอร์มนั้นยังมีคนคอยดูแลอยู่จริงหรือไม่
ตรวจสอบจากรีวิวหรือบทวิจารณ์
นอกจากการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยตนเองแล้ว อาจเพิ่มความมั่นใจอีกขั้นด้วยการอ่านบทรีวิวจากผู้ใช้งานจริง หรือเข้าไปดูเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มที่ต้องการใช้งาน ซึ่งจะทำให้เห็นภาพรวมของแพลตฟอร์มนั้น ๆ ก่อนตัดสินใจใช้งาน
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน สามารถเข้าไปดูบทรีวิว คาสิโนออนไลน์ที่เชื่อถือได้ บน Thaicasino ซึ่งนอกจากส่วนรีวิวของโปรโมชันหรือเกมคาสิโนแล้ว ยังมีการรวบรวมข้อมูลและให้คะแนนความปลอดภัยของเว็บพนันออนไลน์อย่างชัดเจน เช่น เว็บไซต์เปิดทำการและจดทะเบียนมานานแค่ไหน ภายใต้บริษัทอะไร มีใบอนุญาตหรือไม่ มีใบรับรอง SSL ช่วยปกป้องข้อมูลหรือเปล่า น่าเชื่อถือแค่ไหน การอ่านรีวิวประเภทนี้ก่อนการใช้งาน จะช่วยสร้างความมั่นใจในการเลือกแพลตฟอร์มได้ในระดับหนึ่ง
ตรวจสอบอะไรเยอะแยะ
การที่ต้องตรวจสอบขนาดนี้ อาจทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องยุ่งยากเกินความจำเป็น แต่โปรดระลึกไว้ว่าหากโดนมิจฉาชีพหรือมิจจี้นำข้อมูลไปใช้งานในทางไม่ดี หรือถูกนำมาหลอกสแกม เสียเงินเสียทรัพย์สิน การพยายามจะเอากลับคืนมานั้นยุ่งยากกว่านี้มากมาย
เราจึงหวังว่าขั้นตอนการตรวจสอบแพลตฟอร์มออนไลน์ในไทยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะเปรียบเหมือนคู่มือผู้เริ่มต้น ให้คุณสามารถนำมาใช้ประเมินได้ว่าแพลตฟอร์มไหนน่าเชื่อถือ แพลตฟอร์มไหนควรเลี่ยง เพื่อลดความเสี่ยง และเพิ่มความมั่นใจ ความสบายใจในการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้แม้จะเป็นมือใหม่